คู่สมรสสามารถฟ้องขอให้ศาลสั่งชายชู้หรือหญิงชู้ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับสามีหรือภริยาของตนได้หรือไม่ ?
เมื่อคู่สมรสมีชู้ ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคู่สมรสอีกฝ่ายก็คือ ต้องควรต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับคู่สมรสคนนี้เสีย เพราะอยู่กันไปก็ยากที่จะมีความสุขเหมือนเดิมอีกต่อไป
แต่บางครั้งคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งเองก็ยังตัดใจไม่ได้ หรือบางครั้งก็ยังเห็นแก่ครอบครัวและบุตร เห็นแก่หน้าตาทางสังคม ยังอยากให้คู่สมรสกลับมาอยู่กับครอบครัวและบุตร และเลิกยุ่งเกี่ยวกับหญิงชู้หรือชายชู้เสีย
ปัญหาคือ คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งสามารถฟ้องบังคับให้ชายชู้หรือหญิงชู้เลิกมีความสัมพันธ์กับคู่สมรสของตนได้หรือไม่ ?
คำตอบตามกฎหมายคือไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจให้ทำเช่นนั้นได้ โดยมีแนวคำวิจิฉัยของศาลฎีกา ในคำพิพากษาฎีกาที่ 4014/2530 วางบรรทัดฐานไว้ว่า
“จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามีโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามมาตรา 1523 วรรคสอง แต่คำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยระงับการมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามี โจทก์นั้น สภาพของคำขอดังกล่าวไม่เปิดช่องศาลไม่อาจบังคับได้ “
ด้วยความเคารพตามคำพิพากษาศาลฎีกา คำพิพากษานี้ผมเห็นพ้องด้วยผล แต่เห็นว่าเหตุที่ศาลฎีกาวินิจฉัยนั้นยังคงคลาดเคลื่อน
เพราะถึงแม้สภาพคำขอของโจทก์ไม่เปิดช่องให้บังคับคดีตามวิธีตามปกติได้ ศาลก็สามารถใช้มาตรการตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 297 คือขอให้ออกหมายจับจำเลยมาทำการกักขังจนกว่าจะปฏิบัติตามคำพิพากษา
ซึ่งในปัจจุบันมีกฎหมายเฉพาะคือ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนฯ 2553 มาตรา มาตรา 161 ที่บัญญัติไว้เป็นกฎหมายเฉพาะคือ
“ เมื่อศาลมีคำสั่งหรือคำบังคับที่ไม่เกี่ยวกับการยึดหรืออายัดทรัพย์ลูกหนี้ ตามคำพิพากษาหรือมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามมาตรา 159 หากความปรากฏต่อศาลเองหรือคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือผู้แทนหรือผู้มีส่วน ได้เสียร้องต่อศาลว่าคู่ความหรือผู้ที่ถูกคำสั่งบังคับฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งหรือคำบังคับ ให้ศาลออกหมายเรียกหรือหมายจับตัวมาไต่สวนและตักเตือนให้ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือคำบังคับของศาล หากยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำบังคับอีกโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือมี พฤติการณ์จงใจหลบเลี่ยงไม่ปฏิบัติ ให้ศาลมีอำนาจกักขังจนกว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำบังคับแต่ห้ามมิให้กัก ขังแต่ละครั้งเกินกว่าสิบห้าวันนับแต่วันจับหรือกักขัง แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะได้รับการปล่อยชั่วคราว”
ดังนั้นปัญหาจึงไมได้อยู่ที่คำขอดังกล่าวไม่อาจบังคับได้ เหตุผลที่แท้จริงที่ศาลไม่อาจบังคับให้สามีเลิกความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงชู้ ย่อมเป็นเพราะไม่มีกฎหมายสารบัญญัติให้อำนาจศาลบังคับหรือพิพากษาเช่นนั้นได้
โดยเหตุผลของกฎหมายนั้น เป็นเพราะไม่ต้องการบังคับฝืนใจให้สามีภริยาต้องอยู่ร่วมกันหรือบังคับให้สามีกับหญิงชู้ต้องแยกกันอยู่โดยฝืนใจ ซึ่งเป็นเรื่องการบังคับเอาแก่จิตใจของบุคคล แ
ละการบังคับให้สามีที่ภริยาที่ไม่รักกันต้องอยู่ร่วมกันหรือบังคับให้สามีกับหญิงชู้ต้องแยกกันอยู่เช่นนั้น อาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
กล่าวโดยสรุปวิธีแก้ของคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งมีชู้ ก็คือ ต้องฟ้องชู้เพื่อเรียกค่าทดแทนต่อศาล
ซึ่งค่าทดแทนนี้ศาลจะกำหนดให้โดยคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ เช่น ฐานะทั้งทางการเงินและฐานะทางสังคมของภริยาและสามี พฤติการณ์การแสดงออกของหญิงชู้หรือชายชู้ว่าเป็นการออกนอกหน้าหรือไม่ พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรงหรือไม่ เช่นหลังมีการยื่นฟ้องแล้วยังไม่มีการหยุดความสัมพันธ์ ฯลฯ เป็นต้น
ซึ่งหากสุดท้ายคู่สมรสยังไม่อาจเลิกกับหญิงชู้หรือชายชู้ได้ คู่สมรสก็ควรตัดใจ ฟ้องหย่าและเรียกค่าทดแทนรวมถึงค่าเลี้ยงชีพและแบ่งกับสินสมรสกันเสีย เพราะการบังคับฝืนใจให้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งมาอยู่กับท่าน คงไม่ทำให้ครอบครัวเกิดความสุขไปได้ครับ
สวัสดีค่ะดิฉันต้องการสอบถามค่ะ
ประเด็นที่ 1 คือภรรยาเก่าของแฟน ดิฉัน ณ ปัจจุบัน ได้โทรมา ต่อว่าด่าทอดิฉัน โดยใช้คำพูดดูหมิ่นหยาบคาย เช่นกล่าวหาว่าดิฉันเป็นเมียน้อยกล่าวหาว่าดิฉันขายตัว กล่าวหาว่าดิฉันโกงเงินของเขามา แต่เขาได้หย่าขาดจากกันมาแล้ว 3 ปี แต่เขาอ้างว่า ยังคบกันอยู่ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทางสถานภาพ แล้ว แฟนจะอยู่กับดิฉัน ตลอด จะมีบ้างที่เขาไปหาลูก (นานๆครั้ง ต้องมีเหตุให้ไป ลูกรับรางว้ล)แต่ไปเช้าเย็นกลับ ไม่มีการไปนอนค้างด้วยกัน หรือไปไหนมาไหนกับภรรยาเก่าสองต่อสองที่เป็นเหตุอ้าง ว่ายังคบกันอยู่ อีกฝั่งทางภรรยาเก่าเขายังมาก่อกวน กับงานที่ดิฉันทำอยู่ (ทำอยู่ด้วยกันกับแฟนคนปัจจุบัน )แล้วดิฉันมีหลักฐานคลิปเสียง ที่เขาโทรมาด่าว่าดิฉันและมี หลักฐาน ว่าทางภรรยาเก่า ได้นำเรื่องของดิฉัน ไปประจานให้คนอื่นรับรู้
ประเด็นที่ 2 จากตอนที่เขาหย่ากันนั้นเขาได้มีการแบ่งทรัพย์สิน ระหว่างกัน ซึ่งส่วนมากทางฝ่ายภรรยาเก่าจะได้ไป แต่ก็ยังมีทรัพย์สินบางส่วน ที่ยังแบ่งกันไม่ได้ เนื่องจากยังติดจำนองอยู่( ซึ่งกำลังดำเนินการเคลียร์อยู่ ) ทางฝ่ายภรรยาเก่า อ้างว่า จะทำให้ธุรกิจ ที่กำลังทำอยู่นั้นเสียหายและจะฟ้องร้องทำให้ดิฉันและแฟนล้มละลาย โดยจ้างทนาย ตามเก็บข้อมูลกับธุรกิจที่ดิฉันทำอยู่ณปัจจุบัน จะฟ้องร้องขอส่วนแบ่งและจะแจ้งข้อกล่าวหาว่าดิฉันเอาเงินในขณะที่เขายังไม่หย่ากันมาทำธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่ดิฉันเริ่มทำกับแฟนนั้นได้มีการกู้แบงค์มาทำทั้งหมดและมีหลักฐานอย่างชัดเจน
ดิฉันขอคำปรึกษาค่ะว่า ทางฝ่ายภรรยาเก่า บอกว่ากำลังหาข้อมูลเตรียมฟ้องดิฉันและแฟน อยากสอบถามว่าทางภรรยาเก่าสามารถทำอะไรดิฉันและแฟนตามที่เค้าอ้างได้บ้างคะและดิฉันสามารถดำเนินการอย่างไรกับเขาได้บ้างคะ
การปรึกษารายละเอียดเรื่องคดีความแบบนี้ แนะนำให้ปรึกษาในช่องทางส่วนตัวเช่น โทรศัพท์ หรือ line ดีกว่านะครับ เนื่องจากเรื่องแบบนี้ควรรักษาเป็นความลับ
โดยท่านสามารถติดต่อทนายความได้ทาง เบอร์ 098-2477807 และ line id tanaiekkasit ยินดีให้คำปรึกษาครับ