บทความกฎหมายแพ่งและวิธีพิจารณาความแพ่ง

คู่สมรสก่อหนี้ ใครต้องจ่าย? แยกหนี้ส่วนตัว – หนี้สมรส แบบเข้าใจง่าย

คู่สมรสไปก่อหนี้อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องรับผิดไหม  จะถูกยึดทรัพย์ไปด้วยหรือเปล่า หนี้แบบไหนบ้างที่ต้องร่วมจะรับผิด แบบไหนไม่ต้องร่วมกันรับผิด  วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆครับ

รู้ไหมครับว่าหากคู่สมรสไปปก่อหนี้ก่อหนี้สิน เช่นไปกู้ยืมเงินมา ไปเป็นหนี้บัตรเครดิต ไปทำธุรกิจผิดพลาดต้องรับผิด ไปเล่นการพนัน  เราจะต้องรับผิดร่วมกันชดใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้หรือไม่ ?

แล้วถ้าคู่สมรสของเราไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้จะมายึดทรัพย์ของเราได้หรือเปล่า ?

มาครับเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง

ความแตกต่าง หนี้สมรส-สินสมรส

สำหรับหนี้สินที่เกิดขึ้นระหว่างสมรสนั้น มีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างจากสินสมรส

สินสมรสนั้น หากทรัพย์สินใดๆได้มาภายหลังสมรสถือว่าเป็นสินสมรสทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่งอกเงยมาจากทรัพย์สินส่วนตัว เงินเดือน บำนาญ รายได้หรือผลประโยชน์อื่นๆที่ได้มาระหว่างสมรส

แม้ว่าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำมาหาได้ ไม่ได้มีส่วนร่วมรู้เห็นในการได้ทรัพย์สินนั้นมาเลย ก็ถือว่าเป็นสินสมรสอยู่เสมอ

เว้นแต่จะเข้าเข้ายกเว้นบางอย่างเช่นเป็นการให้โดยเสน่หา เป็นการรับมรดก หรือเป็นทรัพย์ที่พอสมควรแก่ฐานะลูกเป็นต้น

แต่ในส่วนของหนี้สมรสนั้นถึงแม้จะเกิดขึ้นระหว่างสมรสโดยคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ก่อให้เกิด ไม่ได้แปลว่าหนี้สินนั้นคู่สมรสอีกฝ่ายจะต้องร่วมกันรับผิดหรือเป็นหนี้ร่วมกันเสมอไป

เฉพาะแต่หนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างสมรสบางประเภทเท่านั้น ที่กฎหมายให้ถือว่าเป็นหนี้ร่วมกันระหว่างสามีภรรยา

 

หนี้สมรสที่ต้องรับผิดร่วมกันมีอะไรบ้าง

1.หนี้ที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันก่อ

อันนี้ชัดเจนอยู่แล้วนะครับหากเป็นหนี้ที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันไปก่อ เช่นไปเช่าซื้อร่วมกัน ไปกู้ยืมเงินรับเงินด้วย กู้ซื้อบ้านจำนองด้วยกัน แบบนี้ก็ต้องรับผิดร่วมกันอยู่แล้ว

2. หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือนและจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัวม.1490 (1)

ตัวอย่างนี่ประเภทนี้เช่น การจัดการจัดหาสิ่งของจำเป็นต่างๆในบ้านเรือน ของใช้ภายในบ้าน การดูแลรักษาบ้านให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยซ่อมแซมบ้านจัดหาสิ่งของจำเป็นในบ้าน

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา ฎ.397/2522   ฎ.398/2522   ฎ.1726/2524   ฎ.3289/2522

3. หนี้เกี่ยวกับการอุปการะเลี้ยงดูตลอดถึงการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและการศึกษาของบุตรตามสมควรแก่อัตภาพ ม.1490 (1)

ตัวอย่างประเภทนี้เช่น จัดหาอาหารเครื่องนุ่งห่มให้กับคนในครอบครัว การอุปการะเลี้ยงดูคนในครอบครัวการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการศึกษาของบุตร ทั้งนี้เฉพาะที่สมควรแก่อัตภาพแก่ครอบครัวของเราเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกินความจำเป็น เช่นไปซื้อเสื้อตัวเป็นแสน นาฬิกาเรือนเป็นล้าน

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่  ฎ.2734/2545   ฎ.1846/2535   ฎ.6306/2551   ฎ.1697/2538

4.หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส ม.1490 (2)

ตัวอย่างประเภทนี้เช่น หนี้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสินสมรสต่างๆเช่นการซ่อมแซมบ้านที่เป็นสินสมรส การกู้เงินมาไถ่ถอนจำนองสินสมรส หรือดูแลทรัพย์สินสมรสต่างๆ

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา ฎ.1013/2519   ฎ.1824/2541  ฎ.5696/2533  ฎ.3141/2532

5.หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน ม.1490 (3)

เช่น.สามีและภรรยาเปิดธุรกิจร่วมทำการค้าขายร่วมกันหนี้สินที่เกิดจากกิจการนั้นถึงแม้อีกฝ่ายหนึ่งจะไม่รู้ด้วยก็ต้องร่วมกันรับผิด

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา ฎ.912/2514  ฎ.955/2518  ฎ.5917/2533   ฎ.1852/2535

6.หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบัน ม.1490 (4)

ตัวอย่างการให้สัตยาบันเช่นการไปลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญา การให้ความยินยอมในการทำนิติกรรม ร่วมกันพูดคุยต่อรองกับเจ้าหนี้

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา ฎ.6425/2545 ฎ.2955/2548    ฎ.7631/2552  ฎ.2429/2555

ข้อกฎหมาย

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1490 หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามีหรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรส ดังต่อไปนี้

(1) หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือนและจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัว การอุปการะเลี้ยงดูตลอดถึงการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและการศึกษาของบุตรตามสมควรแก่อัตภาพ

(2) หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส

(3) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน

(4) หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบัน

ถ้าไม่เข้าหลักเกณฑ์ทั้ง 6 ข้อผลจะเป็นอย่างไร?

 ” หากคู่สมรส ไปก่อหนี้ในลักษณะอื่นเป็นหนี้ส่วนตัวที่คู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้จะต้องรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ” 

ตัวอย่างหนี้ที่ไม่ใช่หนี้สมรส เช่น

 1.หนี้การพนัน หนี้อบายมุขต่างๆ หรือสิ่งผิดกฎหมาย ที่คู่สมรสไม่ได้รู้เห็นด้วย

 2.หนี้ที่เกิดจากการทำละเมิด เช่นกันไปขับรถชนคนตาย ไปทำร้ายร่างกายคนอื่น

 ตัวอย่างคำพิพากษาศาล ฎ.221/2509

3.หนี้ที่เกิดจากไปค้ำประกันหนี้ให้บุคคลอื่นๆ

ตัวอย่างคำพิพากษาศาล ฎ.2515/2531

4.หนี้ที่ไปก่อเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

เช่น กู้ยืมเงินไปบ้านรถให้เมียน้อย กู้ยืมเงินไปสร้างบ้านให้พ่อแม่ของตัวเอง กู้ยืมเงินไปให้ลูกติดของตัวเอง

ตัวอย่างคำพิพากษาศาล ฎ1510/2522.

5.หนี้ที่ก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ของตนเองแต่เพียงผู้เดียว

เช่น หนี้บัตรเครดิต ที่เอาเงินไปใช้ส่วนตัวไม่ได้ใช้ในครอบครัว กู้เงินไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ฎ.1605/2537  ฎ.5542/2546   ฎ.1605/2537  ฎ.1606/2537

6.หนี้ที่เกิดขึ้นก่อนสมรส

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา 2618/2524

หนี้ลักษณะนี้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องรับด้วย และไม่เป็นหนี้ร่วม หากคู่สมรสไม่จ่ายหนี้ มีการฟ้องร้องดำเนินคดีขึ้นมา เจ้าหนี้ก็จะฟ้องได้แต่เพียงคู่สมรสฝ่ายที่เป็นผู้ก่อหนี้เท่านั้น จะฟ้องคู่สมรสอีกฝ่ายไม่ได้

หากมีการฟ้องคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เข้ามาด้วย คู่สมรสฝ่ายที่ไม่ได้ก่อหนี้ก็สามารถต่อสู้คดีและหยิบยกข้อต่อสู้ดังกล่าวขึ้นต่อสู้ได้

 

แบบนี้แสดงว่าถ้าไม่ใช่หนี้สมรส เราก็รอดตัวเลยใช่ไหม ?

” ไม่ใช่ขนาดนั้นครับ “

การที่คู่สมรสฝ่ายที่ไม่ได้ก่อหนี้ ไม่ได้ถูกฟ้องด้วยก็ไม่ได้แปลว่าตัวเองจะไม่ได้ถูกยึดทรัพย์บังคับคดีไปด้วย

ทั้งนี้เพราะถึงแม้ว่า ตนเองจะไม่ได้เป็นฝ่ายก่อหนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมในการรับผิดเป็นการส่วนตัวไม่ได้ถูกฟ้องด้วย

แต่หากเรามีสินสมรสร่วมกัน แบบนี้เราก็อาจจะ ถูกยึดทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาด

แต่ทั้งนี้หากไม่ได้เป็นหนี้ร่วม เจ้าหนี้จะต้องใช้สิทธิ์เลือกยึดทรัพย์เอากับทรัพย์สินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ก่อน ถ้าสินส่วนตัวฝ่ายคู่สมรสที่ก่อหนี้ไม่เพียงพอ จึงจะมายึดเอาสินสมรสได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1488

ดังนั้นหากคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้มีสินส่วนตัวเพียงพอที่จะชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็จะยึดสินสมรสไม่ได้ แต่หากสินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ไม่เพียงพอ แบบนี้เจ้าหนี้ก็มายึดสินสมรสได้

และเมื่อยึดแล้วเมื่อขายได้เท่าไหร่เงินจำนวนครึ่งนึงที่เป็นสินสมรสของฝ่ายที่ก่อหนี้ก็สามารถเอาไปใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ ส่วนครึ่งนึงที่เป็นสินสมรสส่วนของเราเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์เอาไปชำระหนี้แต่ต้องคืนให้เราครับ

ซึ่งผลจะแตกต่างจากการที่เป็นหนี้ร่วมระหว่างสมรสก็คือ ถ้าหากเป็นหนี้ร่วมเจ้าหนี้จะสามารถเลือกยึดสินส่วนตัวหรือสินสมรส ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้โดยไม่มีจำกัด และเมื่อยึดแล้ว ไม่ต้องกันสวนครึ่งนึงให้กับเราครับ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1489

 

สรุปข้อแตกต่างในการรับผิดในกรณีเป็นหนี้ร่วม (หนี้สมรส) กับ หนี้ส่วนตัว 

กรณีเป็นหนี้ส่วนตัว

1.เจ้าหนี้จะต้องเลือกยึดทรัพย์สินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ก่อน

2.หากคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ไม่มีสินส่วนตัวเพียงพอ ถึงจะมายึดสินสมรสได้

3.ยึดสินส่วนตัวของฝ่ายที่ไม่ได้ก่อหนี้ไม่ได้

4.กรณียึดเงินหรือทรัพย์สินสมรส สามารถนำไปชำระหนี้ได้แค่ครึ่งเดียวในส่วนที่เป็นสินสมรสของฝ่ายที่ก่อหนี้เท่านั้น สินสมรสของฝ่ายที่ไม่ได้ก่อหนี้ไม่สามารถนำไปชำระหนี้ได้ สามารถขอกันส่วนออกมาได้

กรณีเป็นหนี้ร่วม – หนี้สมรส 

1.เจ้าหนี้เลือกยึดทรัพย์สินส่วนตัวของฝ่ายก็ได้

2.เจ้าหนี้จะลือกยึดสินสมรสเลยก็ได้ ไม่มีลำดับที่จะต้องเลือก จะยึดอะไรก่อนหรือหลังก็ได้

3.เงินหรือทรัพย์สินที่ยึดทั้งหมดสามารถนำมาชำระหนี้ได้ คู่สมรสอีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์กันส่วน

 

ข้อกฎหมาย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 1488 ถ้าสามีหรือภริยาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ที่ก่อไว้ก่อนหรือระหว่างสมรส ให้ชำระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของฝ่ายนั้นก่อน เมื่อไม่พอจึงให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของฝ่ายนั้น

มาตรา 1489 ถ้าสามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ให้ชำระหนี้นั้นจากสินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย

 

สรุป

หนี้สินที่เกิดขึ้นระหว่างสมรสที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อขึ้น ไม่ถือว่าเป็นหนี้ร่วมที่อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องร่วมกันรับผิดเสมอไป แต่จะต้องดูว่าเข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่อีกฝ่ายจะต้องรับผิดหรือไม่

ซึ่งโดยหลักแล้วศาลจะพิจารณาว่าเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของครอบครัวหรือเปล่า ถ้าเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของครอบครัวก็จะเป็นหนี้ร่วม ถ้าเป็นหนี้ที่ก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ส่วนตัวก็ไม่ถือว่าเป็นหนี้ร่วม

แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนี้ร่วมกันก็ตาม หาคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ไม่มีสินส่วนตัวเพียงพอที่จะชำระหนี้ คู่สมรสก็อาจจะถูกยึดสินสมรสได้เช่นเดียวกันครับ เพียงแต่เมื่อถูกยึดแล้ว เจ้าหนี้สามารถเอาเงินหรือทรัพย์สินไปชำระหนี้ได้แค่เฉพาะส่วนที่เป็นของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้เท่านั้น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่เป็นของเราต้องคืนให้เราครับ

สุดท้ายนี้ผมหวังว่าบทความและตัวอย่างการทำงานนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆและผู้สนใจทุกคนครับ

=

Express your opinion about this article

comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น